พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
เหรียญรุ่นแรก ป...
เหรียญรุ่นแรก ปู่ฤาษีวีระตะเทพ นาคา เทวาศิลป์ กาญจนบุรี
เหรียญรุ่นแรกปู่ฤาษีวีระตะเทพ นาคา เทวาศิลป์ แห่งสำนักปฏิบัติธรรมพุทธมงคลป่าชุมชนเขาพ่อปู่ จัดสร้างขึ้นประมาณปี 2550 เนื่องในโอกาสปู่ฤาษีวีระตะ อายุครบ 60 ปี ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปปู่ฤาษีวีระตะเทพ นาคา เทวาศิลป์ ด้านหลังเป็นรูปย่าฤาษีณีสิริลักษณ์ เทพนาคี จำนวนการจัดสร้างประมาณ 1,000 เหรียญ มีเนื้อทองแดงรมดำเพียงเนื้อเดียว ใส่กรอบพลาสติกทุกเหรียญ เหรียญรุ่นแรกนี้ปู่ฤาษีกับย่าฤาษีณีท่านได้แจกให้แก่ญาติโยมที่มาร่วมทำบุญสร้างสถานปฏิบัติธรรมเรื่อยมา จนกระทั่งเข้าใจว่าหมดแล้ว และเพิ่งมาพบว่ายังมีเหลืออยู่อีกไม่กี่สิบเหรียญเมื่อต้นปีนี้ จึงได้เอาออกแจกแก่ญาติโยมอีกครั้ง และหมดจริงในคราวนี้เอง เหรียญรุ่นแรกนี้ภายหน้าจะเป็นเหรียญที่หายากอีกเหรียญหนึ่ง ปัจจุบันผู้ได้รับแจกเหรียญรุ่นนี้ไปต่างก็หวงแหนกันมาก เนื่องจากเป็นวัตถุมงคลที่ไม่ใช่ธาตุทนสิทธิ์รุ่นแรก และมีรูปปู่ฤาษีกับย่าฤาษีณีอยู่ในเหรียญเดียวกัน ทั้งเหรียญรุ่นนี้ได้สร้างประสบการณ์แก่ผู้บูชาในทุกๆด้านทั้งเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน โชคลาภค้าขาย ฯลฯ
เขาพ่อปู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ปู่ฤาษีท่านได้เล่าให้ฟังว่า ขุนเขาแต่ละลูกล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์ มีสิ่งเร้นลับ และอาถรรพ์มากมาย เนื่องด้วยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จำพวกเจ้าป่าเจ้าเขา รุกขเทวา รุกขเทวี สถิตรักษาอยู่ ผู้เป็นใหญ่ที่ครอบครองดูแลขุนเขาทั้งหลาย ถูกเรียกว่าปู่เจ้าเขา และมักจะเรียกชื่อปู่เจ้าเขาตามชื่อของภูเขานั้นๆ “เขาตะเพลน” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “เขาพ่อปู่” ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักปฏิบัติธรรมพุทธมงคลป่าชุมชนเขาพ่อปู่ก็มีปู่เจ้าเขาดูแล คือปู่เจ้าเขาตะเพลน หรือปู่ใหญ่นั่นเอง เริ่มแรกที่ปู่ฤาษีท่านมาพำนักอยู่ที่นี่ ท่านได้ดำเนินการปั้นรูปปู่ใหญ่ขึ้น คือปั้นเป็นรูปฤาษีขนาดใหญ่ นั่งขัดสมาธิ ยกมือขวาขึ้นตั้ง หงายมือไปข้างหน้าลักษณะโปรดสัตว์ มือซ้ายวางหงายไว้หน้าตักสมาธิ การปั้นรูปที่ต้องแบกหามน้ำ ปูน หิน ทราย มีแรงงานหลักคือย่าฤาษีณีซึ่งขณะนั้นท่านยังเป็นเพียงฆราวาสธรรมดา ที่อธิษฐานจิตมาช่วยปู่ฤาษีปั้นรูปปู่ใหญ่เท่านั้น เมื่อปั้นรูปเสร็จท่านก็จะไปใช้ชีวิตอย่างฆราวาสตามปกติ ไม่เคยคิดที่จะเข้ามาอยู่ในทางธรรมเลย แต่จนแล้วจนเล่า กุศลเก่าเกื้อหนุน กุศลใหม่ที่ได้อยู่ใกล้ชิดผู้ทรงศีลอย่างปู่ฤาษี ย่าฤาษีณีท่านได้เห็นสิ่งดีงาม ได้ฟังปู่ฤาษีเทศนาโปรดครั้งแล้วครั้งเล่า จนท่านซึมซับและเกิดศรัทธาในทางธรรม และตัดสินใจละทิ้งชีวิตฆราวาส อธิษฐานจิตถือบวชอยู่บนเขาตลอดชีวิต โดยมีพระหลวงตาของท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ประกอบพิธีบวชให้ ถือวัตรปฏิบัติด้วยการรักษาศีล 5 และถือสัจจะอีก 3 ข้อ คือกายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 ทั้ง 3 กรรม เสมอกัน (คิด พูด ทำ ตรงกัน) ส่วนรูปปั้นปู่ใหญ่นั้น ได้ปั้นสำเร็จเป็นองค์ปู่ใหญ่มานานแล้ว แต่ยังไม่มีความสมบูรณ์และปู่ฤาษีท่านก็ไม่ทำต่อให้สมบูรณ์ ซึ่งข้อนี้จะเป็นด้วยเหตุผลอันใดไม่มีใครทราบ บางครั้งเมื่อพูดถึงอดีตให้ลูกหลานฟัง ย่าฤาษีณีท่านมักจะพูดสัพยอกปู่ฤาษีว่า ย่าหลงกลตาฤาษีที่ไม่ยอมปั้นรูปปู่ใหญ่ให้เสร็จเสียที คงกลัวย่าจะลงเขา แล้วท่านก็บอกปู่ฤาษีว่า ให้ปั้นรูปปู่ใหญ่ให้เสร็จสมบูรณ์เถอะ ย่าตั้งจิตสัจจะอธิษฐานว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตแล้ว ยังไงก็ไม่ลงเขาหรอก ปู่ฤาษีท่านก็หัวเราะชอบใจแต่ไม่พูดว่ากระไร ญาติโยมที่ขึ้นไปที่สำนักปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการไปอยู่รักษาศีล เจริญจิตตภาวนา หรือไปกราบขอพรปู่ฤาษีวีระตะ ก็จะไปที่หน้ารูปปั้นองค์ปู่ใหญ่เพื่อกราบขออนุญาตท่านอยู่อาศัยบนเขา และกราบขอพรกับปู่ใหญ่ทุกคนไป ว่ากันว่าปู่เจ้าเขาตะเพลนหรือปู่ใหญ่นี้ ท่านดุมาก ใครทำไม่ดี มีจิตโลภอกุศล คิดมาแสวงหาขุมทรัพย์บนภูเขาแห่งนี้ ท่านไล่กระเจิงมาเยอะแล้ว ไม่เว้นแม้แต่พระธุดงค์ที่มาอยู่จำวัด ทำทีว่ามาบำเพ็ญภาวนา แต่กลับทำผิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง ไม่อยู่ในศีลที่พระตถาคตเจ้าท่านบัญญัติไว้ มีจิตโลภอกุศล ใช้ให้ลูกศิษย์กระทำปาณาติบาตเอาชีวิตสัตว์เล็กสัตว์น้อยมาขบฉันเพราะหาญาติโยมใส่บาตรไม่ได้ แถมยังดั้นด้นขึ้นเขาค้นหาถ้ำเพื่อแสวงหาขุมทรัพย์และของวิเศษในถ้ำตามคำเล่าลือ สุดท้ายถูกปู่เจ้าเขาตะเพลนท่านไล่ด้วยภาพมายามนุษย์ร่างกายใหญ่โตเท่ายักษ์ ใช้เท้ากระทืบจนแผ่นดินกระเทือนไปหมด พระธุดงค์กระเจิดกระเจิงหนีตายลงจากเขา เอาชีวิตรอดได้แต่ก็ขวัญเสียจนต้องไปรดน้ำมนต์ล้างอาถรรพ์ และอยู่ในเพศบรรพชิตต่อไปไม่ได้ ต้องสิกขาลาเพศไปในที่สุด หรืออย่างกรณีเจ้าสัวรายหนึ่งได้ขึ้นเขาไปกราบขอพรจากปู่ฤาษีและย่าฤาษีณี เมื่อลากลับลงจากเขา สายตาก็ไปเจอกับก้อนหินตรงถนนทางลงเขาซึ่งยังอยู่ในเขตของปู่ฤาษี เป็นหินก้อนเล็กๆธรรมดา ไม่มีความพิเศษอะไร เพียงแต่มีรูปลักษณ์สวยงามกว่าหินตามปกติเท่านั้น เจ้าสัวได้ถือวิสาสะหยิบก้อนหินติดมือมาด้วยจำนวน 3 ก้อน โดยไม่ได้คิดอะไร พอตกกลางคืนเจ้าสัวได้ฝันไปว่า มีคนหน้าตาดุดันไปทวงของจากแก โดยผู้มาทวงได้พูดว่า มึงเอาทองคำของกูมา เอากลับไปคืนที่เดิมเสีย มิเช่นนั้นจะเกิดวิบัติฉิบหายตายโหง รุ่งเช้าเจ้าสัวแกก็รู้สึกแปลกใจที่ฝันประหลาดแต่ก็คิดว่าอาจเกิดจากธาตุวิปริตแปรปรวน คงไม่มีอะไร จนคืนที่ 2 เจ้าสัวก็ฝันว่ามีคนมาทวงทองคำคืนเหมือนเดิมอีก แต่คราวนี้น่ากลัวและดุร้ายกว่าเดิมมาก ตื่นเช้าแกก็ตกใจ ฝันเหมือนกันติดกัน 2 คืนไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว แกคิดใคร่ครวญไปมาก็นึกขึ้นได้ว่า ได้ถือวิสาสะเอาก้อนหินบนเขาพ่อปู่มาไว้ที่บ้าน เจ้าของคงจะมาทวงให้เอาไปคืนนั่นเอง แกทนไม่ไหวกลัวเกิดเคราะห์ภัย จึงต้องขึ้นเขาเอาก้อนหินทั้ง 3 ก้อนไปวางไว้ที่เดิม ทำพิธีขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา และยังได้ตั้งศาลให้หมดเงินไปเป็นหมื่นอีกด้วย ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แปลกประหลาดสำหรับดินแดนแห่งนี้ ปู่ฤาษีท่านว่า ก้อนหินที่มองด้วยตาเนื้อเห็นเป็นหินธรรมดานั้น บางทีมีพระธาตุเหล็กไหลอยู่ภายใน และพระธาตุเหล็กไหลนั้น เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ทองคำดำ” นั่นเอง ในส่วนของปู่เจ้าเขาตะเพลนหรือปู่ใหญ่นั้น แม้ว่าท่านจะมีอุปนิสัยดุดัน แต่ท่านก็มีเมตตาสูงมาก ซึ่งก็เป็นวิสัยของฤาษีที่มีแต่ความเมตตาต่อสัตว์โลกเป็นที่สุด ผู้กราบไหว้ขอพรจากปู่ใหญ่หากเป็นไปในทางกุศล เป็นไปเพื่อความดีงาม ความสุจริตในการประกอบสัมมาอาชีพ หรืออื่นใดที่ไม่ขัดต่อศีลธรรมแล้วก็มักจะสมหวังกันทุกรายไป นอกจากนี้ ยังว่ากันว่า ปู่ใหญ่เป็นผู้กำหนดเกี่ยวกับการอยู่ การไป ของนักบำเพ็ญทั้งหลายที่มาขออยู่อาศัยบำเพ็ญบารมี ณ สถานปฏิบัติธรรมบนเขาพ่อปู่อีกด้วย นักบำเพ็ญจะสามารถอยู่บำเพ็ญบารมีได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับปู่ใหญ่ หากกระทำผิดศีลผิดธรรมร้ายแรง ลบหลู่ดูหมิ่นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ก็จะเจอดี งูตัวใหญ่ขนาดคนบ้าง งูมีหงอนคล้ายพญานาคบ้าง เสือบ้าง แล้วแต่จะให้เห็นเป็นไป นักบำเพ็ญที่ตั้งใจรักษาศีล เจริญจิตตภาวนาตามที่ได้ตั้งสัจจะอธิษฐานไว้ ก็จะอยู่บำเพ็ญบารมีได้อย่างสงบร่มเย็น ปู่ฤาษีท่านว่า บนเขาพ่อปู่ มีธาตุกายสิทธิ์หรือเหล็กไหลอยู่มากมาย มีทั้งที่ได้ปรากฏให้เห็นและอนุญาตให้นำมาใช้เพื่อประโยชน์แก่พระศาสนาได้ และที่ยังถูกบังไว้ก็มี พระธาตุเหล็กไหลที่ปู่ฤาษีท่านไหลแจกให้แก่ลูกหลานส่วนใหญ่จะเป็นพระธาตุเหล็กไหลที่ได้จากทางภูเขาด้านหลัง ส่วนด้านหน้านั้นยังถูกบังไว้อยู่ นัยว่ายังไม่ถึงเวลาปรากฏนั่นเอง
เกี่ยวกับเขาพ่อปู่นี้ มีลักษณะเป็นแนวภูเขาหลายลูกตั้งอยู่ติดกัน มีผู้รู้บางท่านบอกว่า ภูเขาลูกที่ปู่ฤาษีวีระตะและย่าฤาษีณีสิริลักษณ์ท่านได้พำนักและสร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรมนี้ เป็นภูเขาลูกที่ 6 เป็นดินแดนแห่งฤาษีชีไพรเก่าแก่ เป็นที่สถิตของบรมครูฤาษีมาแต่กาลก่อน เรียกว่าเป็นเขตของฤาษี พระสงฆ์องค์เจ้าไม่สามารถมาอยู่และบำเพ็ญบารมี ณ เขาลูกนี้ได้ ส่วนภูเขาลูกก่อนคือลูกที่ 5 เป็นภูเขาแห่งพรหมเทพ มีพรหม เทพ เทวา เทวี สถิตอยู่เป็นจำนวนมาก และภูเขาลูกถัดไปคือ ลูกที่ 7 เป็นดินแดนแห่งสงฆ์ คือจะเป็นที่ของสงฆ์ หากมีพระสงฆ์มาบำเพ็ญบารมี พำนักจำพรรษา หรือสร้างวัดวาอารามก็จะเกิดความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งข้อนี้เป็นคำพูดของฆราวาสท่านหนึ่งที่ได้พูดให้ฟัง จะเท็จจริงอย่างไรไม่อาจยืนยันได้ ถือว่าเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังก็แล้วกัน แต่ปัจจุบันนี้ภูเขาลูกที่ 5 และลูกที่ 7 ก็ยังไม่มีใครขึ้นไปทำกิจอันใด
เมื่อท่านไปกราบขอพรจากปู่ฤาษีและย่าฤาษีณี ขอแนะนำว่า ท่านควรไปกราบขอพรกับองค์ปู่ใหญ่เพื่อความเป็นศิริมงคลด้วย หรือหากไปอยู่รักษาศีล ปฏิบัติจิตตภาวนา ก็ขอให้ไปบอกกล่าวขออนุญาตต่อปู่ใหญ่เสียก่อน ก็จะเป็นการดี ท่านจะอยู่บำเพ็ญบารมีได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และปราศจากการรบกวนจากสิ่งเร้นลับทั้งปวง
สำนักปฏิบัติธรรมพุทธมงคลป่าชุมชนเขาพ่อปู่ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านหนองปรือ ตำบลหนองประดู่ อำเภอเลาขวัญ เมืองกาญจนบุรี
หากท่านประสงค์ที่จะไปกราบขอพร หรือไปขอให้ปู่ฤาษีกับย่าฤาษีณีสงเคราะห์ในเรื่องที่ติดขัดในชีวิต หรือปรารถนาจะได้วัตถุมงคลของปู่ฤาษีมาบูชา ขอแนะนำบอกกล่าวการบุญในเบื้องต้นแก่ท่านที่จะไปว่า เพื่อเป็นการยังชีพแก่ผู้ทรงศีล และนักบำเพ็ญทั้งหลาย ณ สถานปฏิบัติธรรม ท่านสามารถร่วมบุญได้โดยการนำเสบียงบุญเป็น น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารสด อาหารแห้ง น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเติมเครื่องปั่นไฟฟ้า ไปถวายแก่ผู้ทรงศีล และนักบำเพ็ญทั้งหลายก็จะเป็นการดีเป็นอย่างยิ่ง การที่ท่านไปด้วยกุศลจิต ปรารถนาในการบุญเป็นสำคัญ ท่านย่อมได้รับสิ่งดีๆกลับมาและพบกับสิ่งดีๆในชีวิต และท่านไม่จำต้องนำเสบียงบุญไปทุกอย่างที่กล่าวมา จะอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ตามแต่กำลังทรัพย์ กำลังศรัทธา มากน้อยอย่างไร ผู้ทรงศีลท่านไม่เคยดูหมิ่นดูแคลน ปู่ฤาษีกับย่าฤาษีณีท่านอนุโมทนาบุญด้วยทุกครั้งทุกคน ด้วยความเมตตา ขอให้ทุกท่านโชคดี บารมีบรมครูปู่ฤาษีทุกๆตน บารมีปู่ใหญ่ ปู่ฤาษีวีระตะ และย่าฤาษีณีสิริลักษณ์ คุ้มครองรักษาทุกท่าน ครับ
ผู้เข้าชม
5053 ครั้ง
ราคา
-
สถานะ
โชว์พระ
โดย
lhorsraluang
ชื่อร้าน
หล่อ สระหลวง
ร้านค้า
lhorsraluang.99wat.com
โทรศัพท์
082-339-8375
ไอดีไลน์
082-339-8375
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงไทย / 596-0-12739-3
สมเด็จอะระหัง สุคะโต พิมพ์ใหญ่
เหรียญจตุรพิธพรชัย หลวงปู่สี ว
พระร่วงประทานพร หลวงพ่อกวย วัด
พระพุทธชินราชงาแกะ หลวงพ่อเดิม
มีดปากกา หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน
ปิดตำนาน --- รุ่นพิเศษ เจ็ดนาง
พระขุนแผน 8 รอบ เนื้อผงชานหมาก
ปิดตาข้างอุ เนื้อดิน
องคต หลวงพ่อปาน วัดบางกระสอบ ส
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
jazzsiam amulet
Poosuphan89
Netnapa
ทองธนบุรี
พีพีพระเครื่อง
Leksoi8
เปียโน
เนินพระ99
น้ำตาลแดง
กระต่วย
kaew กจ.
Beerchang พระเครื่อง
อาร์ตกำแพงเพชร
สายน้ำอุ่น
เทพจิระ
chaithawat
stp253
termboon
tplas
ยุ้ย พลานุภาพ
lhorsraluang
tumlawyer
AmuletMan
แมวดำ99
ep8600
ว.ศิลป์สยาม
chathanumaan
NongBoss
ภูมิ IR
เอก พานิชพระเครื่อง
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1392 คน
เพิ่มข้อมูล
เหรียญรุ่นแรก ปู่ฤาษีวีระตะเทพ นาคา เทวาศิลป์ กาญจนบุรี
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
เหรียญรุ่นแรก ปู่ฤาษีวีระตะเทพ นาคา เทวาศิลป์ กาญจนบุรี
รายละเอียด
เหรียญรุ่นแรกปู่ฤาษีวีระตะเทพ นาคา เทวาศิลป์ แห่งสำนักปฏิบัติธรรมพุทธมงคลป่าชุมชนเขาพ่อปู่ จัดสร้างขึ้นประมาณปี 2550 เนื่องในโอกาสปู่ฤาษีวีระตะ อายุครบ 60 ปี ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปปู่ฤาษีวีระตะเทพ นาคา เทวาศิลป์ ด้านหลังเป็นรูปย่าฤาษีณีสิริลักษณ์ เทพนาคี จำนวนการจัดสร้างประมาณ 1,000 เหรียญ มีเนื้อทองแดงรมดำเพียงเนื้อเดียว ใส่กรอบพลาสติกทุกเหรียญ เหรียญรุ่นแรกนี้ปู่ฤาษีกับย่าฤาษีณีท่านได้แจกให้แก่ญาติโยมที่มาร่วมทำบุญสร้างสถานปฏิบัติธรรมเรื่อยมา จนกระทั่งเข้าใจว่าหมดแล้ว และเพิ่งมาพบว่ายังมีเหลืออยู่อีกไม่กี่สิบเหรียญเมื่อต้นปีนี้ จึงได้เอาออกแจกแก่ญาติโยมอีกครั้ง และหมดจริงในคราวนี้เอง เหรียญรุ่นแรกนี้ภายหน้าจะเป็นเหรียญที่หายากอีกเหรียญหนึ่ง ปัจจุบันผู้ได้รับแจกเหรียญรุ่นนี้ไปต่างก็หวงแหนกันมาก เนื่องจากเป็นวัตถุมงคลที่ไม่ใช่ธาตุทนสิทธิ์รุ่นแรก และมีรูปปู่ฤาษีกับย่าฤาษีณีอยู่ในเหรียญเดียวกัน ทั้งเหรียญรุ่นนี้ได้สร้างประสบการณ์แก่ผู้บูชาในทุกๆด้านทั้งเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน โชคลาภค้าขาย ฯลฯ
เขาพ่อปู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ปู่ฤาษีท่านได้เล่าให้ฟังว่า ขุนเขาแต่ละลูกล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์ มีสิ่งเร้นลับ และอาถรรพ์มากมาย เนื่องด้วยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จำพวกเจ้าป่าเจ้าเขา รุกขเทวา รุกขเทวี สถิตรักษาอยู่ ผู้เป็นใหญ่ที่ครอบครองดูแลขุนเขาทั้งหลาย ถูกเรียกว่าปู่เจ้าเขา และมักจะเรียกชื่อปู่เจ้าเขาตามชื่อของภูเขานั้นๆ “เขาตะเพลน” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “เขาพ่อปู่” ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักปฏิบัติธรรมพุทธมงคลป่าชุมชนเขาพ่อปู่ก็มีปู่เจ้าเขาดูแล คือปู่เจ้าเขาตะเพลน หรือปู่ใหญ่นั่นเอง เริ่มแรกที่ปู่ฤาษีท่านมาพำนักอยู่ที่นี่ ท่านได้ดำเนินการปั้นรูปปู่ใหญ่ขึ้น คือปั้นเป็นรูปฤาษีขนาดใหญ่ นั่งขัดสมาธิ ยกมือขวาขึ้นตั้ง หงายมือไปข้างหน้าลักษณะโปรดสัตว์ มือซ้ายวางหงายไว้หน้าตักสมาธิ การปั้นรูปที่ต้องแบกหามน้ำ ปูน หิน ทราย มีแรงงานหลักคือย่าฤาษีณีซึ่งขณะนั้นท่านยังเป็นเพียงฆราวาสธรรมดา ที่อธิษฐานจิตมาช่วยปู่ฤาษีปั้นรูปปู่ใหญ่เท่านั้น เมื่อปั้นรูปเสร็จท่านก็จะไปใช้ชีวิตอย่างฆราวาสตามปกติ ไม่เคยคิดที่จะเข้ามาอยู่ในทางธรรมเลย แต่จนแล้วจนเล่า กุศลเก่าเกื้อหนุน กุศลใหม่ที่ได้อยู่ใกล้ชิดผู้ทรงศีลอย่างปู่ฤาษี ย่าฤาษีณีท่านได้เห็นสิ่งดีงาม ได้ฟังปู่ฤาษีเทศนาโปรดครั้งแล้วครั้งเล่า จนท่านซึมซับและเกิดศรัทธาในทางธรรม และตัดสินใจละทิ้งชีวิตฆราวาส อธิษฐานจิตถือบวชอยู่บนเขาตลอดชีวิต โดยมีพระหลวงตาของท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ประกอบพิธีบวชให้ ถือวัตรปฏิบัติด้วยการรักษาศีล 5 และถือสัจจะอีก 3 ข้อ คือกายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 ทั้ง 3 กรรม เสมอกัน (คิด พูด ทำ ตรงกัน) ส่วนรูปปั้นปู่ใหญ่นั้น ได้ปั้นสำเร็จเป็นองค์ปู่ใหญ่มานานแล้ว แต่ยังไม่มีความสมบูรณ์และปู่ฤาษีท่านก็ไม่ทำต่อให้สมบูรณ์ ซึ่งข้อนี้จะเป็นด้วยเหตุผลอันใดไม่มีใครทราบ บางครั้งเมื่อพูดถึงอดีตให้ลูกหลานฟัง ย่าฤาษีณีท่านมักจะพูดสัพยอกปู่ฤาษีว่า ย่าหลงกลตาฤาษีที่ไม่ยอมปั้นรูปปู่ใหญ่ให้เสร็จเสียที คงกลัวย่าจะลงเขา แล้วท่านก็บอกปู่ฤาษีว่า ให้ปั้นรูปปู่ใหญ่ให้เสร็จสมบูรณ์เถอะ ย่าตั้งจิตสัจจะอธิษฐานว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตแล้ว ยังไงก็ไม่ลงเขาหรอก ปู่ฤาษีท่านก็หัวเราะชอบใจแต่ไม่พูดว่ากระไร ญาติโยมที่ขึ้นไปที่สำนักปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการไปอยู่รักษาศีล เจริญจิตตภาวนา หรือไปกราบขอพรปู่ฤาษีวีระตะ ก็จะไปที่หน้ารูปปั้นองค์ปู่ใหญ่เพื่อกราบขออนุญาตท่านอยู่อาศัยบนเขา และกราบขอพรกับปู่ใหญ่ทุกคนไป ว่ากันว่าปู่เจ้าเขาตะเพลนหรือปู่ใหญ่นี้ ท่านดุมาก ใครทำไม่ดี มีจิตโลภอกุศล คิดมาแสวงหาขุมทรัพย์บนภูเขาแห่งนี้ ท่านไล่กระเจิงมาเยอะแล้ว ไม่เว้นแม้แต่พระธุดงค์ที่มาอยู่จำวัด ทำทีว่ามาบำเพ็ญภาวนา แต่กลับทำผิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง ไม่อยู่ในศีลที่พระตถาคตเจ้าท่านบัญญัติไว้ มีจิตโลภอกุศล ใช้ให้ลูกศิษย์กระทำปาณาติบาตเอาชีวิตสัตว์เล็กสัตว์น้อยมาขบฉันเพราะหาญาติโยมใส่บาตรไม่ได้ แถมยังดั้นด้นขึ้นเขาค้นหาถ้ำเพื่อแสวงหาขุมทรัพย์และของวิเศษในถ้ำตามคำเล่าลือ สุดท้ายถูกปู่เจ้าเขาตะเพลนท่านไล่ด้วยภาพมายามนุษย์ร่างกายใหญ่โตเท่ายักษ์ ใช้เท้ากระทืบจนแผ่นดินกระเทือนไปหมด พระธุดงค์กระเจิดกระเจิงหนีตายลงจากเขา เอาชีวิตรอดได้แต่ก็ขวัญเสียจนต้องไปรดน้ำมนต์ล้างอาถรรพ์ และอยู่ในเพศบรรพชิตต่อไปไม่ได้ ต้องสิกขาลาเพศไปในที่สุด หรืออย่างกรณีเจ้าสัวรายหนึ่งได้ขึ้นเขาไปกราบขอพรจากปู่ฤาษีและย่าฤาษีณี เมื่อลากลับลงจากเขา สายตาก็ไปเจอกับก้อนหินตรงถนนทางลงเขาซึ่งยังอยู่ในเขตของปู่ฤาษี เป็นหินก้อนเล็กๆธรรมดา ไม่มีความพิเศษอะไร เพียงแต่มีรูปลักษณ์สวยงามกว่าหินตามปกติเท่านั้น เจ้าสัวได้ถือวิสาสะหยิบก้อนหินติดมือมาด้วยจำนวน 3 ก้อน โดยไม่ได้คิดอะไร พอตกกลางคืนเจ้าสัวได้ฝันไปว่า มีคนหน้าตาดุดันไปทวงของจากแก โดยผู้มาทวงได้พูดว่า มึงเอาทองคำของกูมา เอากลับไปคืนที่เดิมเสีย มิเช่นนั้นจะเกิดวิบัติฉิบหายตายโหง รุ่งเช้าเจ้าสัวแกก็รู้สึกแปลกใจที่ฝันประหลาดแต่ก็คิดว่าอาจเกิดจากธาตุวิปริตแปรปรวน คงไม่มีอะไร จนคืนที่ 2 เจ้าสัวก็ฝันว่ามีคนมาทวงทองคำคืนเหมือนเดิมอีก แต่คราวนี้น่ากลัวและดุร้ายกว่าเดิมมาก ตื่นเช้าแกก็ตกใจ ฝันเหมือนกันติดกัน 2 คืนไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว แกคิดใคร่ครวญไปมาก็นึกขึ้นได้ว่า ได้ถือวิสาสะเอาก้อนหินบนเขาพ่อปู่มาไว้ที่บ้าน เจ้าของคงจะมาทวงให้เอาไปคืนนั่นเอง แกทนไม่ไหวกลัวเกิดเคราะห์ภัย จึงต้องขึ้นเขาเอาก้อนหินทั้ง 3 ก้อนไปวางไว้ที่เดิม ทำพิธีขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา และยังได้ตั้งศาลให้หมดเงินไปเป็นหมื่นอีกด้วย ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แปลกประหลาดสำหรับดินแดนแห่งนี้ ปู่ฤาษีท่านว่า ก้อนหินที่มองด้วยตาเนื้อเห็นเป็นหินธรรมดานั้น บางทีมีพระธาตุเหล็กไหลอยู่ภายใน และพระธาตุเหล็กไหลนั้น เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ทองคำดำ” นั่นเอง ในส่วนของปู่เจ้าเขาตะเพลนหรือปู่ใหญ่นั้น แม้ว่าท่านจะมีอุปนิสัยดุดัน แต่ท่านก็มีเมตตาสูงมาก ซึ่งก็เป็นวิสัยของฤาษีที่มีแต่ความเมตตาต่อสัตว์โลกเป็นที่สุด ผู้กราบไหว้ขอพรจากปู่ใหญ่หากเป็นไปในทางกุศล เป็นไปเพื่อความดีงาม ความสุจริตในการประกอบสัมมาอาชีพ หรืออื่นใดที่ไม่ขัดต่อศีลธรรมแล้วก็มักจะสมหวังกันทุกรายไป นอกจากนี้ ยังว่ากันว่า ปู่ใหญ่เป็นผู้กำหนดเกี่ยวกับการอยู่ การไป ของนักบำเพ็ญทั้งหลายที่มาขออยู่อาศัยบำเพ็ญบารมี ณ สถานปฏิบัติธรรมบนเขาพ่อปู่อีกด้วย นักบำเพ็ญจะสามารถอยู่บำเพ็ญบารมีได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับปู่ใหญ่ หากกระทำผิดศีลผิดธรรมร้ายแรง ลบหลู่ดูหมิ่นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ก็จะเจอดี งูตัวใหญ่ขนาดคนบ้าง งูมีหงอนคล้ายพญานาคบ้าง เสือบ้าง แล้วแต่จะให้เห็นเป็นไป นักบำเพ็ญที่ตั้งใจรักษาศีล เจริญจิตตภาวนาตามที่ได้ตั้งสัจจะอธิษฐานไว้ ก็จะอยู่บำเพ็ญบารมีได้อย่างสงบร่มเย็น ปู่ฤาษีท่านว่า บนเขาพ่อปู่ มีธาตุกายสิทธิ์หรือเหล็กไหลอยู่มากมาย มีทั้งที่ได้ปรากฏให้เห็นและอนุญาตให้นำมาใช้เพื่อประโยชน์แก่พระศาสนาได้ และที่ยังถูกบังไว้ก็มี พระธาตุเหล็กไหลที่ปู่ฤาษีท่านไหลแจกให้แก่ลูกหลานส่วนใหญ่จะเป็นพระธาตุเหล็กไหลที่ได้จากทางภูเขาด้านหลัง ส่วนด้านหน้านั้นยังถูกบังไว้อยู่ นัยว่ายังไม่ถึงเวลาปรากฏนั่นเอง
เกี่ยวกับเขาพ่อปู่นี้ มีลักษณะเป็นแนวภูเขาหลายลูกตั้งอยู่ติดกัน มีผู้รู้บางท่านบอกว่า ภูเขาลูกที่ปู่ฤาษีวีระตะและย่าฤาษีณีสิริลักษณ์ท่านได้พำนักและสร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรมนี้ เป็นภูเขาลูกที่ 6 เป็นดินแดนแห่งฤาษีชีไพรเก่าแก่ เป็นที่สถิตของบรมครูฤาษีมาแต่กาลก่อน เรียกว่าเป็นเขตของฤาษี พระสงฆ์องค์เจ้าไม่สามารถมาอยู่และบำเพ็ญบารมี ณ เขาลูกนี้ได้ ส่วนภูเขาลูกก่อนคือลูกที่ 5 เป็นภูเขาแห่งพรหมเทพ มีพรหม เทพ เทวา เทวี สถิตอยู่เป็นจำนวนมาก และภูเขาลูกถัดไปคือ ลูกที่ 7 เป็นดินแดนแห่งสงฆ์ คือจะเป็นที่ของสงฆ์ หากมีพระสงฆ์มาบำเพ็ญบารมี พำนักจำพรรษา หรือสร้างวัดวาอารามก็จะเกิดความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งข้อนี้เป็นคำพูดของฆราวาสท่านหนึ่งที่ได้พูดให้ฟัง จะเท็จจริงอย่างไรไม่อาจยืนยันได้ ถือว่าเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังก็แล้วกัน แต่ปัจจุบันนี้ภูเขาลูกที่ 5 และลูกที่ 7 ก็ยังไม่มีใครขึ้นไปทำกิจอันใด
เมื่อท่านไปกราบขอพรจากปู่ฤาษีและย่าฤาษีณี ขอแนะนำว่า ท่านควรไปกราบขอพรกับองค์ปู่ใหญ่เพื่อความเป็นศิริมงคลด้วย หรือหากไปอยู่รักษาศีล ปฏิบัติจิตตภาวนา ก็ขอให้ไปบอกกล่าวขออนุญาตต่อปู่ใหญ่เสียก่อน ก็จะเป็นการดี ท่านจะอยู่บำเพ็ญบารมีได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และปราศจากการรบกวนจากสิ่งเร้นลับทั้งปวง
สำนักปฏิบัติธรรมพุทธมงคลป่าชุมชนเขาพ่อปู่ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านหนองปรือ ตำบลหนองประดู่ อำเภอเลาขวัญ เมืองกาญจนบุรี
หากท่านประสงค์ที่จะไปกราบขอพร หรือไปขอให้ปู่ฤาษีกับย่าฤาษีณีสงเคราะห์ในเรื่องที่ติดขัดในชีวิต หรือปรารถนาจะได้วัตถุมงคลของปู่ฤาษีมาบูชา ขอแนะนำบอกกล่าวการบุญในเบื้องต้นแก่ท่านที่จะไปว่า เพื่อเป็นการยังชีพแก่ผู้ทรงศีล และนักบำเพ็ญทั้งหลาย ณ สถานปฏิบัติธรรม ท่านสามารถร่วมบุญได้โดยการนำเสบียงบุญเป็น น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารสด อาหารแห้ง น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเติมเครื่องปั่นไฟฟ้า ไปถวายแก่ผู้ทรงศีล และนักบำเพ็ญทั้งหลายก็จะเป็นการดีเป็นอย่างยิ่ง การที่ท่านไปด้วยกุศลจิต ปรารถนาในการบุญเป็นสำคัญ ท่านย่อมได้รับสิ่งดีๆกลับมาและพบกับสิ่งดีๆในชีวิต และท่านไม่จำต้องนำเสบียงบุญไปทุกอย่างที่กล่าวมา จะอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ตามแต่กำลังทรัพย์ กำลังศรัทธา มากน้อยอย่างไร ผู้ทรงศีลท่านไม่เคยดูหมิ่นดูแคลน ปู่ฤาษีกับย่าฤาษีณีท่านอนุโมทนาบุญด้วยทุกครั้งทุกคน ด้วยความเมตตา ขอให้ทุกท่านโชคดี บารมีบรมครูปู่ฤาษีทุกๆตน บารมีปู่ใหญ่ ปู่ฤาษีวีระตะ และย่าฤาษีณีสิริลักษณ์ คุ้มครองรักษาทุกท่าน ครับ
ราคาปัจจุบัน
-
จำนวนผู้เข้าชม
5082 ครั้ง
สถานะ
โชว์พระ
โดย
lhorsraluang
ชื่อร้าน
หล่อ สระหลวง
URL
http://www.lhorsraluang.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
082-339-8375
ID LINE
082-339-8375
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงไทย / 596-0-12739-3
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี